[124] 10 ปัญหาชีวิตคู่ แก้ไม่ทัน เสี่ยงรักพัง! (1200 x 768 px)

     สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกแล้ว ใกล้ฮาโลวีนน่ากลัวกว่าผีก็คือรักที่กำลังจะพังในหลายๆคู่นี่แหละครับ บางคู่อาจจะพอรู้ตัว แต่บางคู่ที่ไม่รู้ตัวและปล่อยให้รักกำลังจะพังลงช้าๆจะปรับแก้กันก็สายไปเสียแล้วอันนี้ยิ่งน่ากลัวเลยครับ เพราะบางทีอาจจะชินกับอะไรที่ไม่ควรชินในความสัมพันธ์ เช่น ละเลยกันจนเป็นเรื่องปกติ พูดจารุนแรงใส่กันเป็นธรรมดา ไม่หวานซึ้งไม่มีเซอร์ไพร์สทุกวันเป็นธรรมดา ซึ่งวันนี้ผมก็จพามาเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับ 10 ปัญหาชีวิตคู่ แก้ไม่ทัน เสี่ยงรักพัง! จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยครับ

1.การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน

1. การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน

สังเกตกันไหมครับว่าคู่รักที่ไปกันไม่รอด มักจะมีการเข้าใจกันผิดบ่อยๆ เช่น 

  • บางทีก็สับสนว่าคุณผู้หญิงงอนอยู่หรือแค่แกล้ง
  • เธอบอกให้ไปหาเพื่อนได้แต่กลับมาดันโกรธซะงั้น 

ในทางกลับกัน

  • คุณผู้ชายบอกประเดี๋ยวเดียวเดี๋ยวก็กลับบ้านแล้วแต่ให้คุณผู้หญิงรอถึงเช้าค่อยโผล่ถึงบ้าน
  • หลายครั้งหลายคราที่สัญญาสารพัดเพื่อเอาใจคุณผู้หญิงไปอย่างนั้น แต่กลับทำลืมเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนซะงั้น 

 

     สังเกตดีๆนะครับในกรณีแบบนี้จะเป็นการสร้างความ “ไม่ไว้วางใจ” ในชีวิตคู่ได้ดี เพราะในกรณีที่การสื่อสารของคู่รักมีความชัดเจน จะส่งผลให้คู่รักไม่ต้อง “คิดมาก”และต้องคอย “วิตกกังวล” ว่าบางทีสิ่งที่ทำไปเราทำถูกหรือเปล่านะ? เขาตอบมาแบบนี้หมายความว่ายังไงกันนะ?

     ยิ่งไม่เข้าใจก็ยิ่งคิด ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว จำไว้นะครับทุกคน แค่ใช้ชีวิตในมุมตัวเองผมว่ามันก็เหนื่อยแล้วนะ ชีวิตคู่ที่ดีต้องซัพพอร์ตซึ่งกันและกันนะครับ ในกรณีที่ไม่เข้าใจกันก็สามารถพูดคุยเปิดใจได้อย่างตรงไปตรงมาเพื่อเกิดความเข้าใจกันในอนาคต ต้องการอะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไรก็บอกตรงๆเถอะครับ อย่าลืมนะครับก่อนที่จะเข้าใจอะไรสักอย่างเราก็ต้องรู้ก่อนใช่ไหมครับว่าความชัดเจนคืออะไร ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ดังนั้นแล้วไม่มีคู่ไหนที่รู้ใจตั้งแต่แรกเจอในทันทีนะครับ

2.ความคาดหวังที่แตกต่าง

2. ความคาดหวังที่แตกต่าง

     บริบทของความรักมักเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ทุกคนลองสังเกตดีๆนะครับ ถ้าเป็นรักตอนเรียนใสๆ ม.ต้น ม.ปลาย หรือ มหาวิทยาลัยเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเยอะแยะกันใช่ไหมครับ แค่มีความรู้สึกดีๆให้กันก็พอ แต่เมื่อเราเติบโตขึ้นอายุเราก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และเวลาในช่วงอายุของเราก็มีจำกัดใช่ไหมครับ จึงไม่แปลกที่ความรักมักจะมาพร้อมความคาดหวังใหม่ๆ เช่น 

  • จากใช้ชีวิตคู่กัน 2 คนเพิ่มสมาชิกใหม่มาเป็น 3 คน
  • บางคู่คบกันมานานมากโขแต่ไม่มีวี่แววว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นสถานะแต่งงาน
  • บางคู่ไม่มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานเลยสักที 

 

     เมื่อเวลาในการใช้ชีวิตคู่บนความคาดหวังเหล่านี้มีจำกัด ส่งผลให้บางคู่ไม่อาจรอได้จึงเกิดการเลิกรา ซึ่งต้องวกไปที่หัวข้อแรกคือความชัดเจนในการสื่อสาร ถ้าคู่รักคู่ไหนมีความชัดเจนในเรื่องของแผนการใช้ชีวิตว่า จะแต่งได้ในกรณีไหนบ้าง เช่น

  • เมื่อได้เลื่อนขั้นตำแหน่งงาน
  • เมื่อมีเงินเก็บครบ
  • หรือเมื่อได้ย้ายงานมาใช้เวลากับคนรักได้มากขึ้น 

 

     เมื่อมีความชัดเจนในกรณีที่เป็นไปตามที่วางแผนก็จะเห็นถึงความหวังและความสำเร็จในชีวิตคู่ที่ค่อยเติบโต แต่ในกรณีที่วาดฝันเอาไว้ด้วยกันก็จำเป็นต้องเลิกลา เนื่องจากชัดเจนแล้วว่าไม่เป็นไปตามแผนโดยบางคู่อาจจะคิดว่ารอนานเกินไป หรือเสียเวลานั่นเอง แต่ในกรณีที่แย่ที่สุดที่หลายๆคู่รักพัง เนื่องจากไม่มีการวางแผนใดๆ ที่แสดงถึงความจริงจังในการยกระดับความสัมพันธ์ ใช้ชีวิตไปวันๆ จนลืมไปว่าเวลาของการใช้ความสัมพันธ์ต้องมีการพัฒนา รู้ตัวอีกทีคนรักก็ตีจากเราไป ถึงจะขอโอกาสยังไงเขาก็ไม่คิดกลับมา เพราะฉะนั้นแล้วอย่าลืมถามคนรักถึงความคาดหวังในความสัมพันธ์ที่ค่อยๆเติบโตนะครับ เช่น 

  • หาโอกาสถามถึงความคาดหวังในอนาคตช่วงวันครบรอบ วันเกิด หรือวันวาเลนไทน์ เพื่อเป็นการรับทราบถึงคู่รักของเราให้ชัดเจนว่าต้องการอะไรในอนาคต 

     เมื่อเราทราบแล้วก็จะสามารถวางแผนและตัดสินใจได้ว่าความสัมพันธ์ถ้าจะไปต่ออย่างยั่งยืนควรปฏิบัติไปทิศทางไหน มีวิธีการยังไงต่อ

3.การขาดเวลาให้กัน

3. การขาดเวลาให้กัน

     อันนี้คือเรื่องฮิตประเด็นฮอตเลยนะครับทุกคน ผมมีคำถามง่ายๆเลยนะครับว่า คนที่คบหากันมา 5 ปี กับคนที่คบหากันมา 1 ปี ใครมีเวลาให้มากกว่ากัน ผมเชื่อเลยนะครับว่าทุกคนต้องตอบว่า 5 ปีแน่ๆไม่น่าถามเลยใครก็ตอบได้ แต่ในกรณีที่ผมบอกว่าคู่ 5 ปีเจอกันแค่เดือนละครั้ง แต่คู่รัก 1 ปีอยู่ด้วยกันเจอกันแทบทุกวันเลย ก็จะกลายเป็นว่าคู่รัก 1 ปีนั้นมีเวลาให้กันมากกว่าใช่ไหมล่ะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นจะใช้เวลาให้กันมากน้อยแค่ไหนก็สุดแล้วแต่คู่รักพูดคุยและตกลงถึงความสะดวกในการหาเวลามาเจอกันได้ ตราบใดที่มีความเชื่อใจกันอยู่ แต่สิ่งที่การให้เวลาซึ่งกันและกันก็แสดงถึงความ “เอาใจใส่” ได้นะครับ เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เราหรือคนรักเริ่มมีชุดความคิดว่า “แฟนเจอตอนไหนก็ได้เอาเวลาไปทำอะไรที่สำคัญก่อน” ต้องเริ่มเอะใจแล้วนะครับ เพราะแสดงถึงการขาดความใส่ใจจนกลายเป็นว่า “แฟนก็สำคัญแต่มีอย่างอื่นสำคัญกว่า” เชื่อผมเถอะครับไม่ว่าคุณเป็นคนถูกพูด หรือใครถูกพูดไม่มีใครดีใจแน่นอนเมื่อได้เจอประโยคเหล่านี้ขณะใช้ชีวิตคู่ ใครก็อยากได้การเอาใจใส่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเราหรือมนุษย์คนไหน ดังนั้นแล้วอย่าลืมหาเวลาให้คู่รักของตน ค่อยๆเติมความหวานเล็กๆน้อยๆ หาอะไรพิเศษๆทำให้วันธรรมดาเป็นวันที่พิเศษได้นะครับผม

 

4.ปัญหาทางการเงิน

4. ปัญหาทางการเงิน

    ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ต่างคนก็ต้องช่วยกันรัดเข็มขัดใช่ไหมล่ะครับ แต่ก็มีหลายๆคู่นะครับมีนิสัย “ติดการใช้จ่ายจนเกินตัว” เช่น

  • ในช่วงสิ้นเดือนเงินกำลังจะหมด แต่ก็เลือกตามใจตัวเองไปกินหมูกระทะ
  • ช่วงที่ภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าซ่อมรถ ค่าพยาบาล ค่าเทอม แต่ก็ดันห้ามใจไม่อยู่ช็อปปิ้งกระหน่ำในวันลดราคา 9.9 

 

     ที่ซ้ำร้ายกว่านั้นคือคนที่ไม่ได้เป็นคนหาเงินนั้นไม่แม้แต่จะแสดงความเป็นห่วงเป็นยัยคนรัก และกลับมองว่านี่คือ “เรื่องปกติ” ที่จะมีคนหาเงินมาให้ใช้ ในกรณีนี้ผมสามารถพูดได้เลยนะครับว่ามันเป็นคล้ายๆกับระเบิดเวลาได้เลย เพราะมันคือการนับถอยหลังการเลิกลาถ้ายังมีชุดความคิดแบบนี้อยู่ ชีวิตคู่ที่ดีต้องช่วยซึ่งกันและพึ่งพาซึ่งกันได้นะครับ โดยเฉพาะการวางแผนทางการเงินที่ดีว่าแต่ละคนมีรายได้เท่าไหร่ จะเอาไปทำอะไรในส่วนไหนได้บ้าง นี่คือเงินเก็บ นี่คือเงินเอาไปสำหรับเที่ยว นี่คือเงินค่ากินอยู่ทั่วไป ถ้ามีการปฏิบัติในลักษณะนี้ต่อให้เศรษฐกิจไม่ดี โดนหักเงินเดือน หรือวิกฤติการเงินใดๆเข้ามามีอิทธิพล ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถสั่นคลอนความรักลงได้ ถ้าเรามีการวางแผนทางการเงินที่ดีนะครับ

5.ความไม่ซื่อสัตย์

5. ความไม่ซื่อสัตย์

     เคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับว่า “แก้วที่แตกไปแล้วถึงประกอบมาเหมือนเก่าก็มีสภาพที่ไม่เหมือนเดิม” โดยเฉพาะกรณีที่ใครคนใดคนหนึ่งทำพลาดอะไรสักอย่างไปและโดนคุณแฟนมาคอยระแวง และออกอาการรำคาญว่า

     “จะจับผิดอะไรกันนักหนา” ผมอยากให้เข้าใจในส่วนนี้นะครับว่าคนเราจะระวังตัวอะไรมากขึ้นเพราะเราเคยมีประสบการณ์ไม่ดีโดยตรงมาก่อน เช่น

  • เพื่อนสนิทเราเคยถือมีดแล้วสะดุดมาบาดมือเราเป็นแผลเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเราจะรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนไม่ได้ตั้งใจและไม่มีทางทำอะไรแบบนี้ซ้ำเดิมแน่ๆ แต่เชื่อผมเถอะครับว่าถ้าเราเห็นเพื่อนคนเดิมมาพร้อมกับมีด เราก็จะเริ่มรักษาระยะเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เพื่อนสะดุดมาบาดมือเราซ้ำสอง

 

     ความรักก็เช่นกันครับ ถ้าเกิดการไม่ซื่อสัตย์ครั้งแรก ก็ยากที่จะเชื่อและจะระแวงในครั้งต่อๆไป ไม่ว่าจะเป็น การนอกใจ การพูดโกหก ถ้าเป็นไปได้อย่าทำสิ่งเหล่านี้เลยดีกว่านะครับ ลองนึกภาพกลับกันดู ถ้าแฟนผู้หญิงหรือผู้ชายของเราเคยโกหกและนอกใจมาก่อน และปัจจุบันบอกว่าออกไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่มีเพศตรงข้ามอยู่ในกลุ่มด้วย เป็นคุณจะคิดไม่ตกหรือเปล่าครับว่าเขาจะนอกใจซ้ำเดิมหรือเปล่าทั้งๆที่เราอยากจะนอกใจเขา ในกรณีที่เคยเกิดการพลั้งพลาดแบบนี้ผมขอแนะนำว่าอย่าเอาปัจจัยเดิมๆไปเสี่ยงให้คนรักคิดมากเลยนะครับ เช่น 

  • ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับเพศตรงข้าม อะไรเลี่ยงได้เลี่ยงให้หมดเลยนะครับ
  • การ Follow ig เพศตรงข้าม การสนทนาที่สามารถมองได้ถึงเชิงชู้สาวกับเพศตรงข้าม

 

     ความไว้ใจสามารถสร้างกลับมาได้ครับถ้าเรามีความตั้งใจและความชัดเจนมากพอ ดังนั้นแล้วความซื่อสัตย์คือส่วนสำคัญที่ตัดสินว่าความรักจะหยุดหรือไปต่อนะครับ ขอให้จริงใจต่อกันทำดีต่อกันเข้าใว้นะครับ รักจะได้ไม่พังกันเนอะ ^^

6.การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต

6. การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต

    ประเด็นนี้เป็นอีกเรื่องราวสำคัญสำหรับชีวิตคู่ที่อาจจะพลิก บทบาท บริบทการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น 

  • มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศ
  • มีลูกคนแรก
  • ใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะสามีและภรรยาวันแรก 

     โดยบางคู่นั้นไม่เคยมีประสบการณ์เหล่านี้มาก่อน เมื่อต้องพลิกบทบาท มาเป็นพ่อคน แม่คน จึงต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งต้องมีการจัดสรรเวลาในส่วนอื่นมากขึ้น มีเวลาให้กันและกันน้อยลงเพราะนอกจากต้องโฟกัสกับงานแล้วยังต้องมีสิ่งที่โฟกัสเพิ่มขึ้นคือการเอาเวลาไปให้ลูกนั่นเอง ดังนั้นต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงตรงนี้และต้องปรับความคิดทำความเข้าใจใหม่ๆในชีวิตคู่ที่มีการเปลี่ยนแปลง ในกรณีที่ต้องไกลกันก็ต้องวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆว่าจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญได้ยังไง ทุกวันนี้โลกเราไร้พรมแดนแล้วนะครับทุกคน ถึงตัวจะไกล แต่ใจยังอยู่ใกล้กันก็พอ นอกจากจะโทรหากันแล้วทุกวันนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายที่ทำร่วมกันได้ เช่น

  • เล่นเกมออนไลน์ด้วยกัน
  • ใช้แอพลิเคชั่นที่ทำมาเพื่อรักทางไกล

    ทุกโมเมนต์ในชีวิตเรามีการเปลี่ยนแปลงเสมอไม่ว่าจะตอนไหน เพียงแต่ถ้าเรามีการคุยกันไว้แต่เนิ่นๆไม่ต้องรีบแก้ปัญหาปุบปับ ผมเชื่อว่าทุกท่านจะผ่านทุกการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญไปด้วยกันได้โดยไร้กังวลครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ ^^

7.ความขัดแย้งกับครอบครัว

7. ความขัดแย้งเกี่ยวกับครอบครัว

     ผมเชื่อว่าหลายๆคู่กำลังประสบปัญหานี้ ก็คือชีวิตคู่กำลังไปได้ดีจนกระทั่งมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเช่น คนในครอบครัวของคนรัก อย่างที่ทราบกันดีนะครับการเป็นคนกลางให้กับคนที่ไม่ชอบกันมันเหนื่อย เพราะคนนึงก็จะเอาแบบนั้น อีกคนก็จะเอาแบบนี้ไม่มีใครยอมใคร จะดีกว่าไหมครับถ้าเราลองปรับความเข้าใจในชุดความคิด พฤติกรรม อารมณ์ของคนที่เรากำลังขัดแย้งดู ผมไม่ได้คาดหวังให้เลิกเกลียดเลิกชิงชังได้ทันทีและหันมารักพ่อแม่หรือญาติของแฟน แต่ทำให้เราทราบถึง “เหตุและผล” ของการกระทำ ความคิด บุคคดังกล่าวว่ามีที่มาที่ไปยังไง เพราะอะไรถึงมีแนวคิดและการกระทำสวนทางเรา ซึ่งส่งผลให้เราสามารถหลีกเลี่ยงความขัดแย้งนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น 

  • เรารู้แล้วว่าญาติแฟนคนนี้มีจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกันโดยชัดเจน 

ดังนั้นเวลาที่ต้องสนทนาโดยมีบุคคลนี้อยู่ด้วยเราจึงต้องเลี่ยงประเด็นนี้เด็ดขาด

     เพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกันและทำให้แฟนหนักใจ แฮปปี้ทั้งเราและแฟนเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาต่อความรักในอนาคต ยิ่งเข้าใจญาติไวและวางตัวดีเท่าไหร่ปัญหาก็จะยิ่งเกิดขึ้นน้อยลงเท่านั้นครับ

8.ปัญหาเรื่องเซ็กซ์

8. ปัญหาเรื่องเซ็กซ์

     เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พูดก็คงไม่ได้สำหรับกิจกรรมทางเพศ ซึ่งบางคู่ยังมีความเขินอายที่จะพูดคุยกันตรงๆ ส่งผลให้เกิดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นรสนิยมในการทำกิจกรรมทางเพศ ลีลาจังว่ะและวิธีการทำกิจกรรมทางเพศ ซึ่งการไม่เปิดใจคุยกันนั้นส่งผลให้หลายๆคู่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายนึงที่ “ยอมอดทน” อยู่ตลอดโดยไม่เปิดปากพูดเพื่อประคับประคองความสัมพันธ์นี้ให้ไปต่อ ซึ่งผมบอกเลยนะครับว่าท่านใดที่อ่านและสะดุดกับประโยคที่กล่าวมานี้ว่าตัวเองก็กำลังตกอยุ่ในสถานการณ์นี้อยู่เช่นกัน เชื่อผมเถอะครับความอดทนของมนุษย์เรามักมีจำกัด สักวันก็คงระเบิดออกอยู่ดีถ้าสถาการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆไม่มีการเปลี่ยนแปลง ประเด็นเรื่องเซ็กส์นั้นสามารถหาจุดกึ่งกลางให้ทั้งคู่แฮปปี้ได้ครับ เพียงแต่ลองเปิดใจและกำจัดความเขินอายออกไป อะไรที่ชอบหรือไม่ชอบก็ควรบอกและพูดคุยกันตามตรงนะครับ กิจกรรมจะได้สนุก ชีวิตรักจะได้แฮปปี้ไม่มีพังครับ ^^

9.ความเครียดจากชีวิตประจำวัน

9. ความเครียดจากชีวิตประจำวัน

     เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ โดยเฉพาะเวลามีปัญหารุมล้อมอยู่ให้ปวดหัวอยู่สารพัดทิศทาง นั่นก็เรื่องงาน นี่ก็เรื่องเงิน นู่นก็เรื่องบริหารจัดการเวลา โดยปฏิกิริยาของมนุษย์กักเก็บพลังด้านลบเข้ามามากๆก็มักจะหาที่ระบาย และแสดงออกพฤติกรรม ความคิด และอารมณ์ด้านลบที่กักเก็บไว้ออกมา ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม โดยเฉพาะกลับคนใกล้ตัวที่หลายคู่มีความคิดว่า “เราจะคิดจะพูดหรือทำอะไรก็ได้” กับคนรักของตัวเองโดยไม่ใส่ใจถึงความรู้สึกของถูกกระทำ เลยเกิดภาพที่คนที่เรารักที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวและไม่ทำอะไรผิดเลย แต่กลับโดนดุด่าทำปฏิกิริยาและต้องมารองรับอารมณ์ร้ายๆของอีกคน ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ แด่ผู้ที่แสดงพฤติกรรมแบบนี้ทุกคนนะครับว่าเป็นการแสดงออกที่ไม่น่ารักเลย ความรักที่ดีต้องไม่มีใครทำเพื่อใครฝ่ายเดียวนะครับ ใจเขาใจเราเนาะ ลองจินตนาการดูสิครับ ขนาดอยู่ๆมีคนมาด่าคุณทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดหรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นเรายังโมโหเลย นี่เป็นถึงคนใกล้ตัวที่อยู่ๆก็มาดุด่าพูดร้ายใส่เราแค่คิดน้ำตาก็เจ็บไปถึงก้นบึ้งหัวใจแล้วนะครับ ไม่ควรแบกรับภาระไว้คนเดียวอะไรระบายได้ก็ระบายมันออกมานะครับ คนที่เรารักคือคนใกล้ตัวที่สุดมีไว้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์ที่ดีไม่ได้มีไว้ทำร้ายกันนะครับ



10.การไม่ยอมรับความแตกต่าง

10. การไม่ยอมรับความแตกต่าง

    ความคิด ความเชื่อ ย่อมเป็นปกติที่จะมีความแตกต่าง เชื่อผมเถอะครับถ้าเราไปถามคน 100 คน ว่ารักที่ดีคืออะไร อาจจะได้คำตอบที่ใกล้เคียงกันหรือต่างกันไปแต่ไม่มีทางที่จะเหมือนกันเป๊ะ 100 เปอร์เซ็นต์ นี่แค่เรื่องความรักนะครับ ยังไม่นับชุดความคิด วัฒนธรรม วิธีการแสดงออกพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ทุกคนเกิดมาบนครอบครัว ศาสนา วิธีการเลี้ยงดูที่แตกต่าง ย่องส่งผลต่อความคิด พฤติกรรม อารมณ์และวิธีการแสดงออกของบุคลลเหล่านั้น และหลายคู่มักจะมีเหตุการณ์ไม่ได้หลายๆอย่าง เช่น 

  • กินข้าวไม่ยอมหาร/กินข้าวไม่ยอมออกเงินให้
  • แสดงออกความรักแต่ไม่ยอมบอกรัก/บอกรักแต่ไม่ยอมแสดงออกทางความรัก 

 

     หรือแม้แต่เรื่องของอาหารการกิน ยังมีคู่รักบางคู่ที่ไม่เข้าใจว่าแฟนเรากินสัตว์บางประเภทไม่ได้เช่น วัว หมู กุ้ง ซ้ำร้ายยังยัดเยียดให้บุคคลเหล่านั้นกินตาม ผมบอกเลยนะครับว่าเป็นพฤติกรรมที่เสียงรักร้าวมากเลย และยังมีอีกกรณีก็คือการ “ยัดเยียดความคิดของตัวเอง” ให้คู่รักของเราคิดและแสดงออกตามเราเท่านั้น ปิดกั้นไม่รับฟังมุมมองใหม่ๆ โดยผมจะอธิบายว่าการเข้าใจอะไรบางอย่างนั้นไม่ได้หมายความว่าเราต้องเปลี่ยนให้อะไรมาเหมือนเราได้อย่างเดียวนะครับ เพียงแต่เปิดใจรับฟังเยอะๆถึง “เหตุผล”และ “สาเหตุ” ของพฤิตกรรม ความคิด อารมณ์เหล่านั้น เราก็จะเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเรื่องราว แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เห็นด้วยในเรื่องต่างๆไม่ได้นะครับ สิ่งที่สำคัญคือการอธิบายรายละเอียดอย่างเป็นเหตุผลได้ ว่าเพราะอะไรถึงไม่เห็นด้วยในเรื่องเหล่านี้ เช่น 

  • เราเข้าใจที่แฟนจะชอบออกไปเที่ยวเพราะเป็นกิจกรรมที่แฟนได้ออกไปพบปะผู้คน แต่ตัวเราเป็นคนที่ไม่สนุกกับการพบปะผู้คน รู้สึกเปลืองพลังงานและต้องฝืนทุกครั้งโปรดจงเข้าใจว่าเราทำกิจกรรมกับแฟนได้แต่ไม่ใช่การออกไปพบผู้คน 

     หากพูดคุยกันเข้าใจชี้แจงถึงเหตุและผลในลักษณะนี้รับรองชีวิตคู่ไม่พังและยังอยู่กันได้ท่ามกลางความแตกต่างในชีวิตรักได้ด้วยครับ

 

     จบไปแล้วนะครับสำหรับ 10 ปัญหาชีวิตคู่ แก้ไม่ทัน เสี่ยงรักพัง! ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับหวังว่าผมจะไม่เขียนยาวเกินไป(แหะๆ) เพราะผมใส่ใจอยากให้รายละเอียดต่อผู้อ่านจะได้เอาไปปรับใช้และสังเกตเพื่อชีวิตคู่ไม่พังลงยังไงล่ะ! ปัญหาชีวิตคู่อาจมีเข้ามาเรื่อยๆนะครับ ถ้าหากเราหมั่นสังเกตใส่ใจซึ่งกันและกันไม่ว่าจะเป็นปัญหาแบบไหนผมเชื่อว่าทุกคนจะผ่านไปได้ครับ ผมเป็นกำลังใจให้ทุกคู่รักนะครับผม ^^ สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ ขอให้เป็นวันที่ดีนะครับท่าน สวัสดีครับ

บทความโดย

ประวัติผู้เขียน

ภาพโดย

แชร์บทความ

ระบบชำระเงินรองรับ PromptPay, บัตรเครดิต และช่องทางอื่นๆ

X

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save