![[214] เด็กสมาธิสั้น อาการที่พบได้บ่อยในเด็ก Gen Z และ Alpha (1200 x 628 px)](https://mentalmateservice.com/wp-content/uploads/2024/05/214-เด็กสมาธิสั้น-อาการที่พบได้บ่อยในเด็ก-Gen-Z-และ-Alpha-1200-x-628-px-1024x536.webp)
เคยสังเกตกันไหมคะ…เวลาไปร้านอาหารมักจะมีเด็กผู้ชายที่วิ่งซนไปมา ขยับตัวยุกยิก นั่งไม่ติดที่และรบกวนคนอื่น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนที่บอกว่าเป็นโรคสมาธิสั้น วันนี้จะชวนมาทำความรู้จักโรคสมาธิสั้น โรคในเด็กที่ค่อนข้างสำคัญที่พ่อแม่ควรหมั่นสังเกตพฤติกรรม เพราะการรู้เท่าทันอาการและยอมรับเพื่อรักษา อาจช่วยแก้ไขโรคสมาธิสั้นได้ทัน และหายก่อนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ต่อไป

ภาพถ่ายโดย Luna Lovegood จาก Pexels: https://www.pexels.com/photo/boy-wearing-red-brown-and-white-stripe-sweater-running-photo-1104007/
โรคสมาธิสั้น คืออะไร?
โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder; ADHD) คือ โรคที่พบได้ทั่วไปในเด็กและเป็นภาวะเรื้อรังสามารถสืบเนื่องจนถึงวัยผู้ใหญ่ได้ โดยในวัยเด็กจะไม่สามารถควบคุมตัวเองให้รอคอย อยู่นิ่งหรือมีสมาธิจดจ่อได้นาน เป็นผลมาจากสารเคมีในสมองบางอย่าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อพฤติกรรม อารมณ์ การเข้าสังคม และการเรียน การตัดสินใจวางแผนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ จะพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง
สาเหตุของโรคสมาธิสั้น
เกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน โดยเราพบว่าหนึ่งในนั้นคือ ปัจจัยทางชีวภาพ มีหลายวิจัยที่ชี้ว่า สมองของคนที่เป็นโรคสมาธิสั้นมีโครงสร้างและการทำงานผิดปกติจริง เช่น การหลั่งของสารสื่อประสาท, มีปริมาตรของเนื้อสมองส่วนเทาหลายบริเวณน้อยลง, ความหนาของเนื้อสมองส่วนหน้าที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการคิด การวางแผน จดจ่อ ยับยั้งชั่งใจน้อยกว่าคนที่อายุเท่ากัน และทำงานน้อยกว่าปกติ
นอกจากนี้เรายังพบว่า การที่พ่อหรือแม่ติดสุรา สารเสพติด หรือเด็กที่มีประวัติการคลอดก่อนกำหนด มีน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่าปกติ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ทำให้เด็กมีโอกาสเป็นสมาธิสั้นด้วยเช่นกัน

อาการของโรคสมาธิสั้น เป็นจริงหรือแค่ซน?
สำหรับเด็กที่มีอาการของโรคสมาธิสั้น จะมีความผิดปกติของพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับอายุและระดับพัฒนาการ โดยมักมีอาการแสดงตั้งแต่ ช่วงอายุ 5 ปี แต่จะสังเกตได้ชัดในช่วงอายุ 7-8 ปีและอาการแสดงไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยแบ่งอาการออกเป็น 3 กลุ่มหลัก
1. กลุ่มคึกคัก อยู่ไม่นิ่ง (hyperactivity)
เด็กที่อยู่ในกลุ่มนี้จะวอกแวกง่าย ชอบทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน ซึ่งสุดท้ายไม่ค่อยจะสำเร็จ เบื่อง่าย เวลาต้องอยู่นิ่งนาน ๆ มักรู้สึกกระวนกระวายใจ
2. กลุ่มหัวร้อน หุนหัน (Impulsivity)
เด็กที่อยู่ในกลุ่มนี้จะมักจะใจร้อน รอคอยไม่ได้ คิดอะไรจะทำทันที เหมือนรถไม่มีเบรก ชอบเล่นหรือทำเสียงดัง ๆ พูดสวนพูดแทรก ตอบคำถามทันทีโดยไม่รอฟังให้จบก่อน
3. กลุ่มเหม่อเนือย (Inattention)
เด็กที่อยู่ในกลุ่มนี้ส่วนมากจะทำงานไม่รอบคอบ ขี้ลืม ไม่สนใจฟัง ต้องมีคนคอยกระตุ้นหรือเตือนให้ทำสิ่งต่าง ๆ โอ้เอ้ ผัดผ่อนในการทำสิ่งต่าง ๆ ไม่วางแผน
วิธีรักษาเด็กสมาธิสั้น
- การรักษาด้วยยา โดยยาจะไปช่วยทำให้จดจ่อได้นานขึ้น คงสมาธิได้ยาวขึ้น ซนน้อยลงและสามารถควบคุมตัวเอง และควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น แนะนำให้ทานยาสม่ำเสมอภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับการดูแลรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ
- การปรับพฤติกรรมและการให้ความช่วยเหลือของผู้ปกครองและคุณครู
ผู้ปกครอง
– เน้นเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของโรคเพื่อให้สามารถรับมือได้
– การปรับพฤติกรรมเชิงบวก คือ ให้คำชมเมื่อมีพฤติกรรมดี
– ทำข้อตกลงร่วมกันหากเด็กทำผิด เสริมสร้างการมีวินัย
– มีเวลาคุณภาพในครอบครัว การเล่นกีฬาที่มีขั้นตอน-กติกา เป็นต้น
โรงเรียน
– เน้นเรื่องการเตือนอย่างเหมาะสม ไม่ทำให้รู้สึกอับอาย
– พยายามย่อยงานยากซับซ้อน ให้ง่ายขึ้น สั่งแบบสั้น กระชับชัดเจน
– ให้ความช่วยเหลือด้านการเรียนพิเศษเรียนเสริม เป็นต้น
สำหรับใครที่มีความสงสัยเกี่ยวกับอาการ หรือกำลังเผชิญกับปัญหาทางจิตใจ ปัญหาความสัมพันธ์ต่าง ๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่าง ๆ เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล ทุกปัญหามีความสำคัญและจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ MENTALMATE พร้อมเป็นผู้รับฟังเรื่องราวและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต โดยผู้เชี่ยวชาญทั้งนักจิตวิทยาคลินิกและนักจิตวิทยาการปรึกษาค่ะ
อ้างอิง
- พญ.ปรานี ปวีณชนา. (2564). โลก (ของเด็ก) สมาธิสั้น. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์.
- ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. (2561). สมาธิสั้น. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 27 เมษายน 2567 จาก https://www.happyhomeclinic.com/lp03-adhd.html
บทความโดย

นภวรรณ ศิระโรจนกุล (วรรณ)
นักจิตวิทยา
ภาพโดย
พัทธดนย์ เจริญผล
Web Master & Co-Founder