[112] บ้านที่สร้างสุข วิธีสร้างสุขภาพจิตที่ดีของทุกคนในครอบครัว (1200 x 628 px)

     บ้าน สถานที่ที่ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัยที่ให้ความสบายกายเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่พักใจและจุดเติมพลังความหวัง โอบอุ้มหัวใจให้มีแรงต่อ ทั้งในวันที่เบาใจและวันที่หนักใจ ซึ่งนอกจากผนัง หลังคา พื้น เพดาน ประตู หน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์แล้วนั้น บ้านยังรวมไปถึงคน คนที่เรารู้สึกว่าสามารถวางใจไว้ได้ทั้งในตอนที่หนักอึ้งและตอนที่เบาสบาย 

     แน่นอนว่า บ้านแต่ละหลังมีรูปแบบที่แตกต่างกัน แม้จะดูคล้ายกัน แต่ก็อาจมีบางส่วนที่แตกต่าง ซึ่งนั่นเป็นความพิเศษที่ทำให้บ้านแต่ละหลังมีความเฉพาะตัว เช่นเดียวกันกับคนในบ้าน ที่มีหมวกของบทบาทที่หลากหลาย มีความรับผิดชอบแตกต่างกัน บ้างก็เป็นทั้งพนักงาน และเป็นแม่ เป็นภรรยา เป็นลูกสาวในเวลาเดียวกัน บ้างก็เป็นเจ้าของกิจการ และเป็นพ่อ เป็นสามี เป็นลูกชาย เป็นพี่ชายน้องชายในเวลาเดียวกัน บ้างก็เป็นนักเรียน และเป็นลูก เป็นหลาน เป็นพี่เป็นน้องในเวลาเดียวกัน เรามีหมวกของบทบาทที่พาให้ชีวิตดำเนินไป พาให้พบเจอกับสถานการณ์รอบตัวที่บางทีก็เป็นเรื่องน่ายินดี อยากให้เกิดขึ้นนาน ๆ หรือบางทีก็เป็นเรื่องท้าทาย ที่อยากจะก้าวผ่านไปไว ๆ บ้างก็ควบคุมได้ง่ายดั่งใจ บ้างก็เกินกำลังจะไปควบคุม

     ถึงแม้ว่าจำนวนหมวกของบทบาทที่แต่ละคนมีจะต่างกัน ไม่ว่าจะมีสิบใบ สองใบ หรือหนึ่งใบ แต่เราทุกคนล้วนเป็นคนคนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความคิด ความต้องการ เกิดขึ้นได้เสมอ เป็นแม่ก็โกรธได้ เป็นพ่อก็เสียใจได้ เป็นลูกก็ผิดหวังได้ ซึ่งคงจะดีไม่น้อย ถ้าหากความรู้สึกนั้นได้รับการโอบกอดและยอมรับจากทั้งตัวเราเองและคนในบ้าน และค่อย ๆ สร้างคลังพลังใจให้แก่กันและกัน ด้วยการ “รับฟังอย่างตั้งใจ สื่อสารไปอย่างมีประสิทธิภาพ”

บ้านที่สร้างสุข [ลูกสาวกำลังคุยกับพ่อด้วยรอยยิ้ม]

ภาพถ่ายโดย Annushka Ahuja จาก Pexels: https://www.pexels.com/photo/a-father-standing-beside-her-sitting-daughter-8055836/

การรับฟังอย่างตั้งใจ สื่อสารไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำอย่างไร?

1. รับฟังอย่างตั้งใจ 

     การรับฟัง ไม่ได้หมายถึงเพียงการได้ยินคำพูดหรือประโยคเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใส่ใจในการแสดงออกทางพฤติกรรมหรือท่าทาง ซึ่งการรับฟังอย่างตั้งใจนี้ สามารถสร้างได้ไม่ยากเลย โดยเราสามารถเริ่มต้นฝึกทักษะนี้ได้ ดังนี้ 

     1.1) เริ่มสังเกตตัวเอง ทั้งภาษาพูด ภาษากาย และสำรวจสิ่งที่ต้องการภายในใจ ว่าในแต่ละครั้งตัวเราเองมีการแสดงออกอย่างไร พูดออกไปตรงกับใจคิดหรือเปล่า หมั่นสังเกตถึงข้อความที่เราสื่อสารออกไปรวมถึงอารมณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้นด้วย ทั้งในช่วงเวลาที่เราอยู่คนเดียว อยู่กับคนในบ้าน และอยู่คนอื่น ๆ ตัวเราเป็นอย่างไร โดยที่เราอาจใช้การจดบันทึกมาช่วย การได้จดบันทึกในแต่ละวัน จะช่วยให้เราได้มีเวลาทบทวนสิ่งต่าง ๆ และเมื่อย้อนกลับมาอ่าน ก็จะเห็นรูปแบบของการแสดงออกของตัวเอง เป็นโอกาสให้ตัวเองได้รู้สึกอย่างเต็มที่ ได้มองเห็น รับรู้ เข้าใจตัวเองมากขึ้น เป็นกำลังใจชั้นดีที่เราสามารถมอบให้กับตัวเอง เพื่อสร้างใจให้แข็งแรง และประคองใจในวันที่เปราะบาง

     1.2) เริ่มสังเกตคนรอบตัว เมื่อเราเริ่มเข้าใจในการแสดงออกของตัวเองแล้ว ในลำดับถัดไป ลองฝึกสังเกตการสื่อสารของคนรอบตัว โดยใส่ใจทั้งข้อความในการสื่อสารของเขา และสังเกตถึงอารมณ์ของเขาด้วย เช่น เขาพูดว่า “ไม่เป็นไร สบายดี” แต่ตอนนั้นน้ำตาคลอเบ้า นั่นอาจสะท้อนว่าเขากำลังรู้สึกไม่สบายใจ หากเราสนใจเพียงถ้อยคำที่ได้ยิน ก็อาจจะทำให้มองข้ามความรู้สึกที่อยู่ข้างในใจที่แท้จริงของผู้พูดได้ ในทางกลับกัน หากเรารับฟังด้วยใจที่ตั้งใจรับทั้งถ้อยคำและอารมณ์ของเขา จะพาให้ตัวเราสามารถเข้าไปนั่งในใจของผู้พูดได้มากขึ้น ตัวผู้พูดก็ได้รับการปลอบประโลม และช่วยพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันได้ด้วย อย่างไรก็ตาม การสังเกตถ้อยคำและอารมณ์ของคนรอบตัว ไม่ได้หมายถึง การพาตัวเองไปตัดสินใคร เราจะไม่ยัดเยียดความคิด ความรู้สึกของเราให้เขา แต่เราจะเป็นคนที่อยู่ข้าง ๆ รับฟัง แม้ไม่พูดอะไร เพียงการพยักหน้าและตั้งใจรับฟังจริง ๆ ก็มีความหมายมากแล้ว

 

2. สื่อสารไปอย่างมีประสิทธิภาพ

    สมดุลระหว่างความต้องการของคนรอบตัวและความต้องการของตัวเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เราได้มีพื้นที่ปลอดภัยในการยอมรับและแสดงออกเรื่องราวในใจของตัวเอง พร้อมทั้งก็ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไม่ทำร้ายใจใครด้วย โดยแนวทางสำหรับการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพมีดังนี้

วิธีสื่อสารกับตัวเองเพื่อสร้างสุขภาพจิตที่ดีในครอบครัว

     2.1) ฝึกสื่อสารกับตัวเอง  ให้เวลากับตัวเองในการพูดและฟังความรู้สึก ความคิด ความต้องการ ผ่านการใช้โครงสร้างของประโยคที่ประกอบด้วย “ตัวเอง + ความรู้สึก/ความคิด/ความต้องการ + อะไรที่ทำให้เกิดความรู้สึก/ความคิด/ความต้องการ” โดยระบุถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก/ความคิด/ความต้องการ ให้ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถพูดกับตัวเองหรือใช้การจดบันทึกเพื่อช่วยให้สังเกตรูปแบบการสื่อสารของตัวเองกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ให้ได้เข้าใจถึงความเป็นไปของเสียงในใจ และพาให้เห็นมุมมองของทางที่จะเลือกรับมือกับสิ่งที่มีผลต่อใจให้ตรงเป้าหมายมากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น 

“ฉันเสียใจที่ทำจานใบใหม่ตกแตกเมื่อเช้านี้”

“แม่กังวลที่ลูกกลับบ้านช้าไป 1 ชั่วโมง”

“ผมผิดหวังที่พิมพ์งานส่งช้ากว่ากำหนด 1 วัน”

“พ่อดีใจที่ได้ไปเที่ยววันเสาร์กับลูก”

“ผมภูมิใจที่ทำงานเสร็จตามตารางที่เขียนไว้เมื่อวาน”

วิธีสื่อสารกับคนรอบตัวเพื่อสร้างสุขภาพจิตที่ดีในครอบครัว

     2.2) ฝึกสื่อสารกับคนรอบตัว นำโครงสร้างประโยคที่เราได้ฝึกสื่อสารกับตัวเองมาลองใช้กับคนรอบตัวในสถานการณ์ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทั้งตอนที่รู้สึกสบายใจและตอนที่รู้สึกไม่สบายใจ โดยที่การใช้โครงสร้างประโยคที่ประกอบด้วย “ตัวเอง + ความรู้สึก/ความคิด/ความต้องการ + อะไรที่ทำให้เกิดความรู้สึก/ความคิด/ความต้องการ” ร่วมกับการรับฟังอีกฝ่ายอย่างตั้งใจด้วยการสังเกตทีท่าของอีกฝ่าย และเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้สื่อสารเช่นกัน ก็จะเป็นแนวทางที่ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเชื่อมต่อกันได้ เข้าใจมุมมองของกันและกัน ลดแรงปะทะหรือความรู้สึกว่าอีกฝ่ายถูกตำหนิ  และพาให้แต่ละฝ่ายสามารถตอบสนองได้ตรงความต้องการของกันได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น 

“แม่กังวลที่ลูกกลับบ้านช้าไป 1 ชั่วโมง มีอะไรเกิดขึ้นคะ 

พอจะเล่าให้แม่ฟังได้ไหม”

“พ่อดีใจที่ได้ไปเที่ยววันเสาร์กับลูกนะ แล้วลูกรู้สึกอย่างไรบ้างครับ”

 

บทส่งท้าย

     ไม่ว่าเราจะมีบทบาทแบบไหน เราก็สามารถเติมคลังพลังใจให้กันและกันได้เสมอ ทั้งเติมให้ตัวเอง เติมให้คนในบ้าน เพราะความรู้สึกของทุกคนเป็นของจริงและมีคุณค่าเสมอ การได้รับฟังและสื่อสารกัน เป็นเหมือนทางที่เชื่อมใจและชวนให้ได้ลองค้นพบแนวทางรับมือกับเรื่องราวต่าง ๆ อย่างสมดุล เปรียบเหมือนกับการรับ-ส่งลูกบอล เมื่อทั้งสองฝ่ายเลือกขนาดบอลที่พอดี กะระยะให้เหมาะสม เคลื่อนไปอย่างมีจังหวะและทิศทาง ก็จะทำให้ประคองลูกบอลไปสู่จุดหมายที่ตั้งใจได้ในที่สุด 


สุขภาพจิตที่ดี สามารถสร้างได้ง่าย ๆ ทุกวันเมื่อคนในบ้านได้เข้าไปนั่งในหัวใจของกันผ่านการรับฟังอย่างตั้งใจ สื่อสารไปอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

บทความโดย

ประวัติผู้เขียน

ภาพโดย

แชร์บทความ

ระบบชำระเงินรองรับ PromptPay, บัตรเครดิต และช่องทางอื่นๆ

X

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save