![[121] อกหักอีกแล้ว ฮีลใจอย่างไร 10 วิธีฮีลใจให้ดีขึ้นเมื่ออกหัก (1200 x 768 px)](https://mentalmateservice.com/wp-content/uploads/2024/06/121-อกหักอีกแล้ว-ฮีลใจอย่างไร-10-วิธีฮีลใจให้ดีขึ้นเมื่ออกหัก-1200-x-768-px-1024x655.webp)
เคยมีคนกล่าวไว้ “ที่ใดมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์” บางทีอาจจะจริงหรือไม่จริงล้วนแล้วแต่บุคคล เพราะเมื่อใดที่มนุษย์มีความรู้สึกดีๆต่อคนใกล้ตัว ซึ่งอาจจะพิเศษกว่าความสัมพันธ์ใดๆ เราจะเรียกสิ่งนี้ว่า “ความรัก” และวันนี้เราจะมาพูดถึงความรักที่มีต่อ”คนรัก” และความรักที่มีต่อ “ตนเอง”
เริ่มจากความรักที่มีต่อคนรัก เมื่อเรามีรักแล้วเชื่อว่าทุกคนนั้นมักมองไปที่อนาคตอันสดใสของความสัมพันธ์ และไม่ได้คิดแม้แต่จะมองถึงจุดจบและการเลิกรา เมื่อมีความคาดหวังในอนาคตอันสดใส เมื่อไม่เป็นดั่งหวังไว้ เกิดการเลิกรา จึงเกิดความผิดหวัง ยิ่งหวังมากยิ่งเจ็บมากและในที่สุดจึงเกิดเป็นความทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส ถัดมาคือความรักที่มีต่อตนเอง วันนี้เราจะมาพูดถึง 10 วิธีฮีลใจตนเองเมื่ออกหัก ผิดหวัง และพยายามมูฟออนจากเขา และกลับมารักตัวเราเอง ซึ่งมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

1. It’s sad but it’s true (มันเศร้านะแต่มันก็จริง)
ก่อนที่เราฮีลใจตัวเองนั้นเราต้องมองอะไรๆด้วยความเป็นจริงก่อน ซึ่งขั้นตอนแรกคือการสำรวจและยอมรับความจริง ว่าเพราะอะไรเราถึงอกหัก เพราะอะไรเราถึงเศร้า เช่น “เพราะเรารักเขามาก มีความรู้สึกให้เขาอย่างสุดซึ้ง เป็นธรรมดาเช่นกันที่เราจะเศร้าขนาดนี้ เพราะความรู้สึกที่มีให้กับเขานั้นมากเหลือเกิน”
พอเรารับทราบข้อเท็จจริงเหล่านี้แล้วว่า เพราะอะไรถึงเสียใจมากมายขนาดนี้ เราจึงสามารถยอมรับความจริงได้ว่าเป็นปกติของเราที่จะเสียใจ และอนุญาตให้ตัวเองเสียใจได้ครับ ร้องมันออกมาให้พอใจเลยนะ เมื่อถึงจุดที่เลิกเสียใจเราจะได้เริ่มใหม่ได้อย่างไม่ติดค้าง ฮึบๆ!!

2. อัดอั้นไว้ทำไม? ระบายออกให้สบายใจดีกว่า
บางครั้งบางคราวความรู้สึกแย่ๆ ถึงไม่ได้แก้ปัญหาได้ทันทีก็ยังดีกว่าเก็บเรื่องเหล่านี้ไว้ในใจคนเดียวนะ ลองหาใครสักคนที่ไว้ใจได้พูดคุยระบายสิ่งที่ติดค้างในใจมันออกมาสิ เช่น เพื่อนสนิท พ่อแม่ หรือพี่น้อง หรือในกรณีที่เราไม่สามารถพูดกับใครได้เลย เราขอนำเสนอให้ลองคุยกับ “นักจิตวิทยา” ดูได้นะ เพราะบุคคลเหล่านี้ถูกฝึกฝนมาให้รับฟังอย่างจริงใจและไม่ตัดสิน เราสามารถพูดคุยและระบายทุกเรื่องที่เราอัดอั้นและเป็นกังวลออกมาได้เต็มที่ โดยที่ไม่ถูกตัดสินว่าสิ่งที่เราพูดออกมามันดีหรือไม่ดี แค่พูดมันออกมาก็พอ ซึ่งพอได้ระบายเรื่องราวทุกข์ใจออกมาในระดับนึง เราจะได้ทำความเข้าใจกับตัวเอง และมองภาพรวมความทุกข์เหล่านี้ชัดเจนขึ้นและจะได้มีวิธีการฮีลใจเป็นของตัวเองว่าจะเอายังไงต่อ

3. Stop the suffering loop!! (หยุดวังวนชีวิตที่ทรมาน)
ผมเชื่อว่าหลายคนเมื่ออกหักก็เคยเป็นกัน คือการไปที่ไหนก็ถึงเหตุการณ์ที่สถานที่นี้เคยมีเขา สิ่งที่กินต้องเป็นสิ่งที่เขาชอบ กีฬาหรือเกมที่เคยเล่นด้วยกันตอนมีเขามันช่างมีความสุขเหลือเกิน กิจกรรมและสถานที่เหล่านี้ ณ ช่วงเวลาที่อกหักและยังทำใจไม่ได้เราขอแนะนำให้ งด ละ เลิก ในการณ์เอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่ว่าเราอ่อนแอ แค่เรายังใจไม่แข็งพอ เพราะตอนเราพึ่งเลิกลา ชีวิตประจำวันส่วนมากผมเชื่อเลยว่าส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารักมากที่สุดเป็นแน่แท้ จึงไม่แปลกที่ความทรงจำ อารมณ์ ความคิดของเรานั้นจะผูกติดกับคนรัก แต่วันนี้เราไม่มีเขาอยู่ในชีวิตให้ใช้เวลาร่วมแล้ว อะไรๆที่เคยมีเขาอยู่ในความทรงจำ เลี่ยงได้เลี่ยงก่อนนะ ถ้าในกรณีที่เรามูฟออน และไม่คิดอะไรกับเขาแล้ว จะไปที่ไหนทำอะไรโดยที่เขาคนนั้นไม่มีอิทธิพล ทั้งความคิด อารมณ์ ความทรงจำ จะไปที่ไหนทำอะไรที่เคยเกี่ยวกับเขาก็ลุยโลด!!

4. โสดทั้งทีลองมีอะไรใหม่ๆทำดูก็ไม่เสียหาย
ในกรณีที่เราโสด อีกมุมมองนึงก็จะเท่ากับว่า “เรามีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น” จะดีกว่าไหมถ้าเอาเวลาเหล่านี้แทนที่จะเศร้า เราลองเอาเวลาเหล่านี้ไปประสบการณ์ใหม่ดีกว่า!! เริ่มจากการเขียนเบื้องต้นในกระดาษถึงหัวข้อ “สิ่งใหม่ๆที่อยากทำ” นอกจากเราจะได้ประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆแล้ว ข้อดีอีกอย่างคือเราจะได้ “มีสิ่งที่จดจ่อกับตัวเอง” เมื่อเราโฟกัสที่ตัวเองได้มากขึ้น ก็จะส่งผลให้คิดถึงเขาน้อยลง และอยู่กับปัจจุบันอยู่กับตัวเองได้ดีขึ้นครับ

5. อย่าลืมดูแลตัวเองบ้างนะแก
กรณีที่เราอกหัก เรื่องสุขภาพกายนั้นสำคัญกับสุขภาพจิตมาก ซึ่งหลายคนมองข้ามประเด็นนี้ไปเลย ถึงใจเราจะพัง แต่ร่างกายเรายังต้องมีชีวิตอยู่นะ อย่าปล่อยให้ความผิดหวังทางความคิดและอารมณ์ด้านลบมาส่งผลต่อร่างกาย ที่ทำให้เราจิตตกข้าวปลาไม่กิน ไม่ยอมหลับยอมนอนเพราะเอาเวลาไปคิดถึงอดีตและช่วงเวลาดีๆที่มีเขา ปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรมและป่วยในที่สุด ป่วยใจไม่พอยังจะให้ตัวเองมาป่วยกายอีกอย่างนั้นหรือ ผมว่าไม่น่าจะดีนะ เชื่อผมเถอะว่า เมื่อเราดูแลตัวเองและเราดูดีขึ้น ขนาดเรายังชอบเข้าหาสิ่งดีๆ แล้วทำไมไม่ลองทำตัวเองให้ดีขึ้นล่ะ
“เพราะมันจะดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาตัวเราเองนะ” เพราะฉะนั้นเริ่มจากการกินให้อิ่ม นอนให้หลับ ออกกำลังกาย หมั่นดูแลตัวเอง สิ่งเหล่านี้ทำได้ไม่ยากเลยนะ

6. ถ้าคิดจะฮีลใจ เหตุอันใดจึงต้องอยู่ลำพัง?
หลายท่านมองว่าการที่จะทำให้สภาพจิตใจเราดีขึ้นนั้นมันช่างแสนจะยากลำบากเหลือเกินเมื่อเราต้องเผชิญปัญหาเหล่านี้ไปคนเดียว จะดีกว่าไหมในกรณีที่จะทุกข์หรือสุข เราก็ยังมีคนรอบข้างคอยให้กำลังใจและกิจกรรมให้ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์รอบข้างอยู่บ้าง จะกิจกรรมที่มีสาระ หรือไม่มีสาระ อย่างน้อยๆก็มีอะไรให้คุยให้สนใจ ไม่ปล่อยกายและใจให้เหงา เช่น หาเพื่อนออกกำลังกาย, ตั้งปาร์ตี้เล่นเกมออนไลน์ (ROV, PUBG และอื่นๆ), ตั้งตี้เล่นบอร์ดเกม หรือแม้กระทั่งชวนเพื่อนไปปฏิบัติธรรม ซึ่งผมเชื่อว่าปัญหาที่ไม่ได้แบกไว้คนเดียว มีคนคอยรับฟังช่วยเหลือไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ต้องออกมาดูดีกว่าแบกรักและเผชิญปัญหา แก้ไขไปคนเดียวเป็นแน่แท้

7. ลืมไปเลยว่าเคยแฮปปี้
เมื่อวิถีชีวิตเราเปลี่ยน พฤติกรรมและความคิดเราก็เปลี่ยนเราได้เช่นกัน ในกรณีที่เราเคยอยู่คนเดียวแล้วมีกิจกรรมที่สามารถมีความสุขด้วยตัวเองในเมื่อก่อนนั้นแทบจะเลือนลาง หรือลบหายไปจากความทรงจำไปเลย เนื่องจากเราใช้ชีวิตคู่มานานแสนนาน นานจนทำให้ลืมไปเลยว่า “การใช้ชีวิตคนเดียว การมีความสุขด้วยตัวคนเดียว” มันเป็นยังไง โดยผมอยากให้เพื่อนลองเอากระดาษสักใบหนึ่งขึ้นมาเขียนในหัวข้อ “ครั้งหนึ่งเราเคยมีความสุขด้วยตัวเอง” โดยให้ List ทบทวนหัวข้อกิจกรรมต่างๆในอดีตที่เราเคยมีความสุขได้ด้วยตัวเอง เมื่อเราค้นพบสิ่งเหล่านั้นอยากให้เพื่อนๆลองกลับไปทำกิจกรรมเหล่านั้นดู ไม่แน่อาจจะมีความสุขเพลิน จนไม่คิดถึงเรื่องเขาและสามารถกลับมาโฟกัสที่ตัวเอง กลับมารักตัวเองได้ดีขึ้นเป็นปลิดทิ้งเลยก็ได้

8. เป้าหมายมีไว้พุ่งชน
เมื่ออกหักสิ่งแรกๆที่เข้ามาในหัวคือความทุกข์ ความคิดด้านลบ ความผิดหวัง และทางตันทางความคิด ชีวิตที่ไม่มีเป้าหมายไม่รู้จะเอายังไงต่อไปดี วันนี้เราขอเสนอให้เพื่อนๆตั้งสติ หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาและเขียนหัวข้อ “ไม่มีเขาเราก็อยู่ได้” ใช้จินตนาการของเพื่อนๆเขียนเป้าหมายออกมาว่า ตั้งแต่วันนี้ถ้าเราจะเริ่มใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เราจะมีเป้าหมายในการพัฒนาตัวเองจะเริ่มจากสิ่งไหนจะทำยังไงบ้าง เช่น ไม่มีเขาเราก็จะสวยหรือหล่อขึ้นกว่านี้ให้ดู โดยตั้งเป้าลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ดูแลร่างกายตนเอง หรือ ไม่มีเขาเราก็จะรวยขึ้นให้ดู อาจเอาเวลาที่โสดมามุ่งเน้นในการหารายได้ โฟกัสกับการใช้ชีวิตกับหน้าที่การงาน และยังมีอย่างอื่นอีกมากมายที่ให้เพื่อนๆสามารถตั้งเป้าหมายชีวิตกับตัวเองให้เขียน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของแต่ละคนนะครับ

9. พักผ่อนฮีลใจ เอาร่างกายไปพัก
การท่องเที่ยวนั้นเป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนจากการใช้ชีวิตประจำวัน พักผ่อนจากการทำงาน แล้วทำไมเราจะ”พักผ่อนจากความรัก” ไม่ได้ล่ะ? โดยเราอาจจะนึกถึงสถานที่เราชื่นชอบและเป็นสิ่งที่เรารู้สึกดีทุกครั้งเมื่อได้ไปเยือน เช่น เพื่อนบางคนไปนั่งแช่น้ำตกอยู่กับธรรมชาติ, บางท่านไปนั่งกินลมชมวิวที่ทะเล, บางท่านไปสวนสนุกให้สุดเหวี่ยง หรือแม้กระท่างบางท่านปลีกวิเวก ขึ้นภูเขาขึ้นดอยหนีให้ห่างไกลผู้คนเพื่อสงบจิตสงบใจ เพราะการเอาตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ วิธีชีวิตเดิมๆนั้น ในกรณีที่มีความทรงจำที่สนุก ประทับใจ เข้ามาทดแทนมากเท่าไหร่ก็ยิ่ง ทำให้เราลืมความทรงจำแย่ๆ สิ่งที่ไม่ดีต่อหัวใจได้เร็วเท่านั้นครับ ^^

10. ตัวอยู่ที่ไหน ขอให้ใจที่อยู่นั่น
จาก 9 วิธีข้างต้น ผมเชื่อว่าเพื่อนๆคงมีวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองในการฮีลใจแล้ว สิ่งที่ผมอยากย้ำเตือนเป็นสิ่งสุดท้ายคือ อยากให้ทุกคนตั้งสติอยู่กับปัจจุบันด้วย ถึงแม้ว่า เราจะไปทำกิจกรรมต่างๆกับเพื่อน, ไปท่องเที่ยว, หางานอดิเรกทำ หรือแม้กระทั่งออกกำลังกายอยู่ แม้ว่าตัวเราจะทำสิ่งต่างๆมากมาย หากใจเรายังยึดติดอยู่กับอดีตคนรักทุกเวลา ทุกวินาที กิจกรรมหรือสถานที่ต่างๆที่เราดำเนินอยู่ก็จะไม่เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ผมมีวิธีการตั้งสติอยู่กับปัจจุบันมาแนะนำ ทักษะนี้เรียกว่า Here and now หรือเรียกในภาษาบ้านเราคือการกำหนดจิตให้อยู่กับปัจจุบันครับ ยกตัวอย่างเช่น เรากำลังวิ่งออกกำลังกาย ขอให้เราพึงระลึกกับตัวเองไว้ว่าขาของเราก้าวอยู่ เรากำลังกายใจอยู่ เรากำลังออกกำลังกายอยู่ ไม่คิดเหม่อลอยไปเรื่องอื่น หรือในกรณีที่เราออกไปท่องเที่ยว ให้เราพึงระลึกเสมอว่าเรามาเที่ยว เรามาพักผ่อน เราจะทิ้งเขาไว้ที่ส่วนลึกของความทรงจำ สิ่งที่เราจดจำตรงหน้าจะมีแต่สถานที่ประทับใจ ประสบการณ์ที่น่าจดจำ อาจจะฟังดูยุ่งยาก แต่ทำอะไรย่อมดีกว่าไม่ทำอะไร ปล่อยให้จิตเหม่อลอย ใบหน้าเขาเข้ามารบกวนจิตใจทุกวินาที แบบนี้ผมว่าไม่ดีต่อการฮีลใจแน่นอน
ก็จบไปแล้วสำหรับ 10 วิธีฮีลใจตนเองเมื่ออกหักนะครับ วิธีการต่างๆที่แนะนำมาเป็นวิธีการเบื้องต้นที่ใช้ได้จริง ยังมีวิธีอื่นอีกมากมายที่เหมาะสมกับเพื่อๆในการฮีลใจ เพราะฉะนั้นไม่ต้องยึดติดว่าจะต้องเป็น 10 วิธีนี้เท่านั้นนะครับ ท้ายที่สุดผมขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนฮีลใจจากการอกหัก กลับมามีความสุขกับต้วเองได้อย่างเต็มที่นะครับ ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีครับ สวัสดีครับ ^^
บทความโดย

มนตรี กันทะมา (ปาร์ค)
นักจิตวิทยา
ภาพโดย
พัทธดนย์ เจริญผล
Web Master & Co-Founder