![[813] 6 เทคนิคสร้างสมาธิในการทำงาน โฟกัสได้ เคลียร์งานทันแน่ (1200 x 768 px)](https://mentalmateservice.com/wp-content/uploads/2024/06/813-6-เทคนิคสร้างสมาธิในการทำงาน-โฟกัสได้-เคลียร์งานทันแน่-1200-x-768-px-1024x655.webp) 
						
6 เทคนิคสร้างสมาธิในการทำงาน
ในปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและแทบจะตลอดเวลา การใช้ชีวิตของเราจึงต้องเร่งรีบเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสิ่งนี้มีผลกระทบต่อการทำงานของเราอย่างมาก ทั้งด้วยจำนวนงานหรือรูปแบบงานที่ทำให้เราต้องเร่งมือเพื่อให้งานเสร็จได้ตรงตามกำหนด แต่บางครั้งงานที่มีจำนวนมากหรืองานที่ต้องใช้เวลา การจัดการเวลาหรือการที่จะมีสมาธิจดจ่อกับงานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะการรบกวนจากภายนอกและภายในมีมากมาย เช่น การแจ้งเตือน, ข่าวสารที่ดึงความสนใจมากมาย หรือเสียงรอบตัวที่เกิดจากการพูดคุยหรือจากการก่อสร้างต่าง รวมไปถึงเสียงความคิดในหัวของเราที่คิดถึงเรื่องอื่นๆ อยู่ตลอดเวลา
วันนี้ผมเลยมี 6 เทคนิคในการเพิ่มสมาธิในการทำงานมาให้ทุกคนได้ลองนำไปปรับใช้กับตัวเองกันดูครับ
 
						
1. กำหนดเป้าหมายและลำดับความสำคัญให้ชัดเจน
เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงสำหรับสิ่งที่เราต้องทำให้สำเร็จ สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีทิศทางการทำงานที่ชัดเจนและรู้ว่าควรทำยังไงให้ไปถึงเป้าหมายนั้น จากนั้นให้เราแบ่งเป้าหมายของเราออกเป็นข้อย่อยและจัดลำดับความสำคัญ โดยผมจะขอเสนอเป็นเทคนิค Eisenhower Matrix ที่จะช่วยให้เราประเมินความเร่งด่วนและความสำคัญของแต่ละงานและสามารถตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการทำงานเหล่านั้นให้สำเร็จได้
 
						
2. สร้างสภาพแวดล้อมที่ลดสิ่งรบกวน
จัดพื้นที่ทำงานของเราให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ เพราะหากสภาพแวดล้อมที่เราอยู่เต็มไปด้วยสิ่งของเกะกะ จะส่งผลให้การทำงานของเราไม่ราบรื่นติดๆ ขัดๆ เนื่องจากของที่ไม่เป็นระเบียบจะคอยรบกวนการทำงานของเราอยู่ตลอดเวลา เช่น การหาของแต่ละอย่างก็จะใช้เวลานาน ยิ่งเวลารีบก็จะยิ่งใช้ได้ไม่ทันตามที่ต้องการ หรือหากมีของใหญ่ๆ วางไว้เยอะ ความคล่องตัวในการทำงานก็จะยิ่งถูกจำกัดลง ทำให้งานที่ทำอยู่ออกมาล่าช้าได้ และสิ่งรบกวนภายนอกก็สำคัญเช่นกัน เช่น บางครั้งเรากำลังโฟกัสงานนึงอยู่ แต่กลับมีเพื่อนคอยชวนคุยอยู่ตลอด มีแชทจากที่ไม่เกี่ยวกับงานเด้งมาตลอด หรือมีการใช้เสียงดังอยู่บ่อยๆ ซึ่งการบอกเพื่อนร่วมงานถึงเวลาที่เราจะโฟกัสกับงาน การปิดการแจ้งเตือนที่นอกเหนือจากงาน หรือการใช้หูฟังตัดเสียงรบกวนก็เป็นวิธีที่สามารถช่วยเพิ่มสมาธิและโฟลว์ในทำงานของเราได้ดีมากยิ่งขึ้น
 
						
3. Time Blocking
การใช้ Time Blocking เป็นอีกเทคนิคนึงที่จะช่วยให้เราสามารถจัดการงานและบริหารเวลาของเราในแต่ละวันได้ดี ซึ่งหลักการจะมีดังนี้
- กำหนดสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน เช่น พรุ่งนี้เราจะเช็คอีเมลล์ก่อนเริ่มทำงาน A หรือหลังกินข้าวเสร็จเราจะทำงาน B ต่อ
- กำหนดเวลากับสิ่งที่ต้องทำ เช่น พรุ่งนี้เราจะเช็คอีเมลล์ 08.00 – 08.25 น. / ทำงาน A 08.30 – 09.30 น.
- ยืดหยุ่นเวลาได้ตามสมควร เนื่องจากไม่มีอะไรที่เป็นไปตามสิ่งที่เราวางแผนไว้เป๊ะๆ การยืดหยุ่นได้นั้นจะช่วยให้เรารับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้อย่างดี
- การวางแผน ให้เลือกจัดการงานที่ท้าทายหรือสำคัญที่สุดก่อนในแต่ละวัน รวมถึงลงตารางให้เหมาะกับตัวเรา เนื่องจากหากเลือกทำงานที่ยากที่สุดก่อนเป็นอย่างแรกจะทำให้สมาธิในการทำงานของเราเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ตลอดทั้งวัน แต่เราจะต้องลำดับความสำคัญควบคู่กันไปด้วย เพราะหากเราเลือกทำงานที่ยากที่สุดก่อน แต่ไม่ใช่งานที่เร่งด่วน อาจจะทำให้งานเร่งด่วนของเราล่าช้าได้เช่น บางงานที่เรารู้สึกว่าทำมันได้ดีในช่วงเช้า ก็ให้เลือกทำงานนั้นในช่วงเช้า เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
- วางตารางของเราไว้ในที่ที่สามารมองเห็นได้ชัดเจน เพื่อให้เราทำตรงตามแผนที่วางไว้และสามารถคอยตรวจสอบได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้การมีตารางเวลาสม่ำเสมอในทุกๆ วัน สามารถฝึกสมองเราให้มีสมาธิได้ดีขึ้นในช่วงเวลาที่เรากำหนดได้
 
						
4. การทำสมาธิและฝึกสติ
การทำสมาธิเป็นวิธีพื้นฐานที่สามารถช่วยเพิ่มสมาธิในการใช้ชีวิตและการทำงานอย่างมาก แต่สภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่มีสิ่งรบกวนมากมายรวมถึงภาระงานที่มีจำนวนมากและต้องใช้การคิดอยู่บ่อย ๆ การนั่งสมาธิ 30-60 นาทีอาจจะค่อนข้างยาก ผมเลยขอแนะนำวิธีง่าย ๆ คือการหายใจเข้าช้า ๆ กลั้นหายใจไว้ครู่นึงและหายใจออกช้า ๆ ประมาณ 10 ครั้ง เป็นการทำสมาธิสั้นๆ ช่วยในการควบคุมความเครียดและช่วยสร้างสมาธิในแต่ละวันได้
 
						
5. การดูแลสุขภาพ
การรับประทานอาหารที่ได้สารอาหารครบถ้วนและออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง เพิ่มการทำงานของการรับรู้และสมาธิ หากรวมการออกกำลังกายเข้ากับกิจวัตรด้วยจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้การนอนหลับอย่างเพียงพอมีผลต่อสมาธิในแต่ละวัน เนื่องจากการอดนอนทำให้เกิดอาการเบลอและส่งผลต่อการประมวลผลข้อมูลในสมอง
 
						
6. สร้างแรงจูงใจให้ตัวเองอยู่เสมอ
ใช้ระบบการให้รางวัลเข้ามาใช้ในการทำงาน เป็นการทำเป้าหมายนึงสำเร็จก็จะให้รางวัลกับตัวเอง อาจจะเป็นเป้าหมายเล็กๆ ก็ได้ เพราะการให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ กับตัวเองเสมอจะช่วยให้เรามีแจงจูงใจในการทำงานมากขึ้น เช่น เราทำงานเสร็จงานนนึงอาจจะให้รางวัลตัวเองด้วยการซื้อของอร่อย ๆ ที่อยากกิน หรือหากงานนั้นเป็นงานใหญ่หรือเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นมา ก็อาจจะให้รางวัลตัวเองด้วยการซื้อในสิ่งที่อยากได้มานาน การให้รางวัลกับตัวเองสามารถสร้างแรงจูงใจและทำให้เราทำงานได้สนุกมากขึ้น
หากเรานำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับรูปแบบงานของตัวเองได้ จะช่วยเพิ่มสมาธิในการจดจ่อและสามารถโฟกัสกับงานได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาปรับใช้เพื่อบริหารเวลาและวางแผนชีวิตได้ดียิ่งขึ้น
บทความโดย
เพชรพล เที่ยงตรง (ฟาว)
นักจิตวิทยา
ภาพโดย
พัทธดนย์ เจริญผล
Web Master & Co-Founder
 
						
 
                                    
