
ถ้าหากพูดถึงหรืออยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของมนุษย์แล้วล่ะก็ ทฤษฎีที่โด่งดังมากทฤษฎีนึงที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ของมาสโลว์ (Maslow’s Hierarchy of Needs Theory) เป็นทฤษฎีทางจิตวิทยาที่คิดขึ้นโดยนักจิตวิทยาชาวอเมริกันชื่อ อับราฮัม มาสโลว์ (Abraham Maslow) โดยเขาเชื่อว่า มนุษย์เรามีความปรารถนาที่จะเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในชีวิตที่ถือเป็นจุดสูงสุดของชีวิต แต่การจะไปถึงจุดนี้ได้ก็จำเป็นจะต้องได้รับการเติมเต็มในขั้นต่าง ๆ ก่อน ซึ่งลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์จะมีลักษณะเป็นพีระมิด 5 ขั้น แต่ละขั้นจะแสดงถึงความต้องการที่แตกต่างกันและชี้ให้เห็นว่ามนุษย์เราจะต้องตอบสนองต่อความต้องการในระดับล่างก่อนที่จะก้าวไปในระดับที่สูงกว่า
มาสโลว์ได้สรุปความต้องการของมนุษย์ (Hierarchy of Needs) ไว้เป็น 5 ขั้นดังนี้

ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกายภาพ (Physiological Needs)
ความต้องการทางกายภาพเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานที่สุดของนุษย์ (Basic needs) เช่น ต้องการอาหาร เสื้อผ้า ยา ที่พักอาศัย อากาศ รวมไปถึงความต้องการทางเพศ เพื่อการดำรงชีวิตและการอยู่รอดของมนุษย์ หากไม่ได้รับการตอบสนองความต้องการในขั้นนี้ก็อาจจะทำให้ใช้ชีวิตได้ยากลำบากจนถึงไม่สามารถใช้ชีวิตได้
ขั้นที่ 2 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย (Safety Needs)
หลังจากได้รับการตอบสนองต่อความต้องการทางกายภาพแล้ว มนุษย์จะเพิ่มความต้องการของตัวเองในระดับที่สูงขึ้น คือความต้องการความมั่นคงและปลอดภัย เช่น ความปลอดภัยทางด้านสุขภาพร่างกายและทรัพย์สิน ความมั่นคงในการทำงานและการเงิน และเพื่อให้ได้รับการตอบสนองความต้องการนี้เราจึงแสวงหาและวางแผนกับสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ตนเองได้รู้สึกถึงความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิต
ขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ (Love and Belonging)
ความต้องการในขั้นนี้จะเกี่ยวกับความรู้สึกที่ได้รับความรักและการยอมรับ มีความต้องการการเป็นเจ้าของและมีเจ้าของ รวมถึงความสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ และความรู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งในสังคมด้วย เช่น การได้รับการยอมรับจากเพื่อนฝูง ได้รับคำชื่นชมจากครอบครัว หรือการได้รับความรักจากคนรัก ซึ่งถ้าหากความต้องการขั้นนี้ไม่ได้รับการตอบสนองจะส่งผลทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น หากไม่ได้รับความรักจากครอบครัว อาจจะส่งผลให้มีอาการเก็บกด ต่อต้าน จนไปถึงมีอาการซึมเศร้าได้
ขั้นที่ 4 ความต้องการความเคารพนับถือ (Esteem Needs)
เมื่อความต้องการทั้ง 3 ขั้นได้รับการตอบสนองแล้ว ขั้นถัดมาจะเป็นความปรารถนาที่จะรู้สึกดีต่อตนเอง โดยมาสโลว์ได้แบ่งไว้เป็น 2 ลักษณะ
อย่างแรกคือความรู้สึกมั่นใจในตนเองและรู้สึกดีกับตนเอง เช่น การยอมรับและเคารพในข้อบกพร่องของตนเอง รู้ถึงคุณค่าในตนเอง
และอย่างที่สองคือความรู้สึกมีคุณค่าหรือได้รับความเคารพนับถือจากผู้อื่น เช่น ได้รับการยกย่องชื่นชมถึงความสำเร็จต่าง ๆ จากคนอื่นหรือการจบการศึกษาจากที่ดี ๆ เพื่อให้รู้สึกเป็นที่ถูกยอมรับจากสังคม เมื่อได้รับการตอบสนองความต้องการนี้จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกมั่นใจและเห็นว่าการมีส่วนร่วมและความสำเร็จของตนเองนั้นมีคุณค่าและสำคัญ แต่หากไม่ได้รับการตอบสนองความต้องการนี้อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกด้อยกว่าได้
ขั้นที่ 5 ความต้องการบรรลุศักยภาพของตน (Self-Actualization)
เป็นความต้องการระดับสูงสุดของมนุษย์ มาสโลว์ได้อธิบายความต้องการในขั้นนี้ว่าเป็นความปรารถนาที่มนุษย์จะทำในสิ่งที่ตนสามารถทำได้ให้สำเร็จ ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล เช่น สำหรับบางคนการจะบรรลุศักยภาพของตนได้นั้นจะเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้อื่น หรือบางคนอาจจะเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในชีวิต
ถึงแม้ว่าทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์จะต้องถูกเติมเต็มในระดับล่างก่อน แต่มาสโลว์ก็ได้อธิบายไว้อีกว่า ในแต่ละขั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการตอบสนองความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างสมบูรณ์เพื่อให้เกิดความต้องการในขั้นถัดไปขึ้น โดยคนส่วนใหญ่มักจะได้รับการตอบสนองความต้องการแต่ละขั้นของตนเพียงบางส่วนเท่านั้น

ภาพถ่ายโดย PhotoMIX Company จาก Pexels: https://www.pexels.com/photo/black-samsung-tablet-computer-106344/
การนำทฤษฎีความต้องการของมนุษย์ (Hierarchy of Needs) มาปรับใช้
หลังจากเราได้รู้จักและทำความเข้าใจกับความต้องการของมนุษย์ไปแล้ว แล้วเราจะนำสิ่งนี้ไปใช้ยังไงล่ะ ?
ในปัจจุบันก็มีการนำทฤษฎีนี้มาปรับใช้ในหลาย ๆ สถานการณ์ด้วยกัน ทั้งกับตนเอง คนในองค์กร หรือจะเป็นการปรับใช้ในธุรกิจและการตลาด โดยจะเป็นการศึกษาทำความเข้าใจแรงจูงใจและความต้องการพื้นฐานของแต่ละบุคคล เพื่อนำมาวิเคราะห์ วางแผนและพัฒนาต่อยอดให้เหมาะสมตามแต่ละจุดประสงค์ที่ต้องการ ยกตัวอย่างคร่าว ๆ เช่น ในการพัฒนาพนักงานในองค์กร เราสามารถหาแรงจูงใจและความต้องการของพนักงานในแต่ละขั้น เพื่อหาวิธีพัฒนาศักยภาพของพนักงานแต่ละคนได้ หรือในการตลาด เราก็สามารถศึกษาพฤติกรรมความต้องการของลูกค้า เพื่อวางแผนและพัฒนาวิธีการขายให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นได้
อ้างอิง
บทความโดย
เพชรพล เที่ยงตรง (ฟาว)
นักจิตวิทยา
ภาพโดย
พัทธดนย์ เจริญผล
Web Master & Co-Founder